แล็บประชารัฐ จับมือ สสว. ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แนะนำเทคนิคการยื่นขอจดทะเบียน อย. แก่เอสเอ็มอีกลุ่มอาหาร-เกษตรแปรรูป ก้าวสู่มาตรฐานยุค 4.0
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ แล็บประชารัฐ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดงานอบรมยกระดับมาตรฐานสินค้า “เลข อย.อาหาร ของ่าย ได้ไว” เพื่อแนะนำเทคนิคการยื่นขอจดทะเบียนกับ อย. แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนกว่า 1,000 ราย ใน 6 จังหวัด 6 ภูมิภาค โดยล่าสุดวันที่ 31 ส.ค. 60 ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบปะผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจอาหารและเกษตรแปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพของจังหวัด เพื่อมีโอกาสได้เลข อย. เร็วขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก นายประจวบ กันธิยะ รองผวจ. เชียงใหม่ มาเป็นประธานเปิดงาน ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส
นางสาลินี วังตาล ผอ.สสว. เปิดเผยว่า สสว. เดินหน้ายกระดับมาตรฐานเอสเอ็มอีไทยอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอสเอ็มอีเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้จัดสรรงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ เข้ามารับบริการตรวจวิเคราะห์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ฟรี จากแล็บประชารัฐ ผ่านโครงการคูปองมูลค่า 5,000 บาท ระยะที่ 2 จานวน 6,000 ใบ รวมถึงยังจัดสรรงบประมาณอีกส่วนหนึ่ง เพื่อดำเนินการจัดอบรมในครั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปยื่นขอจดทะเบียนกับ อย.
ซึ่งนอกจากจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว และเมื่อต้นปี 2560 สสว. ได้ดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกันนี้ ร่วมกับ อย. และ แล็บประชารัฐ ที่ จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.นครปฐม จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง มี SME เข้าร่วมโครงการ 1,316 ราย สามารถจดทะเบียน อย. ได้แล้ว 43 ราย ซึ่งการทำโครงการลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยยกระดับ SME ขนาดย่อม และ Micro SME ให้เป็น SME 4.0 ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กก.ผอ.แล็บประชารัฐ เปิดเผยว่า นโยบายของ นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะให้แล็บประชารัฐจัดตั้งศูนย์รับตัวอย่างสินค้าที่นำมาตรวจวิเคราะห์มาตรฐานขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ สะท้อนว่าสินค้าเอสเอ็มอีของจังหวัดมีศักยภาพ ที่จะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการรับรองมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ดังนั้นหากผู้ประกอบการเข้าร่วมงานอบรมครั้งนี้ก็จะช่วยลดข้อจำกัดดังกล่าวลงได้ โดยภายในงานยังมีคลินิกให้คำปรึกษาเชิงลึกรายบุคคล และบริการยื่นขอสินเชื่อครบวงจรจากสถาบันการเงินมาเปิดบูธด้วย
“แล็บประชารัฐออกแพ็คเกจการตรวจวิเคราะห์ 4 แบบ ให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้คูปองตามความเหมาะสม ได้แก่ การตรวจสารพิษตกค้าง การตรวจผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐ การตรวจวิเคราะห์ฉลากโภชนาการ และการตรวจประเมินสถานประกอบการ หากสินค้าผ่านมาตรฐาน ผู้ประกอบการจะได้รับผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างและประกาศนียบัตรรับรอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า โดยสามารถใช้คูปองได้จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการไม่ต่ากว่า 3,500 ราย มูลค่าธุรกิจรวมกันประมาณ 1 หมื่นล้านบาท” นายสุรชัยกล่าว
ที่มา : chiangmainews
Link : ข่าว Click