เป่าวัดแอลกอฮอล์ ไม่ได้จำกัดแค่ที่ด่านตรวจตำรวจเท่านั้นนะ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงเป็นอันดับต้น 3 ของทวีปเอเชีย โดยตกอยู่ที่ 8.3 ลิตรต่อคนต่อปี (Brandinside.asia ธันวาคม 2560) และผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังได้ระบุอีกว่า คนไทยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึงร้อยละ 32.3 โดยกลุ่มช่วงอายุที่มีอัตราการดื่มมากที่สุดคือช่วงวัยทำงานอายุระหว่าง 25 – 59 ปี
ผลเสียจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกเหนือจากที่เราพอจะนึกออกได้ง่ายๆอย่าง การเมาแล้วขับ ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนหรือระหว่างการทำงาน ก็ส่งผลเสียได้เป็นอย่างมากไม่แพ้กัน นอกจากจะลดประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ก็ยังส่งผลที่อาจนำไปสู่การเกิดอันตรายต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน และบุคคลรอบตัว เช่น งานขับยานพาหนะ งานบนที่สูง งานควบคุมเครื่อมจักร งานที่เกี่ยวกับของมีคม งานในที่อับอากาศ งานเกี่ยวกับวัตถุไวไฟ เป็นต้น
จึงเป็นเหตุผลที่การตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตามด่านตรวจบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการตรวจวัดในช่วงเวลาการทำงาน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจที่มีการทำงานที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง (Safety Sensitive Jobs) เช่น ธุรกิจขนส่งต่างๆที่จะมีการบังคับให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะต้องทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก่อนทำงานทุกครั้ง ซึ่งหากฝ่าฝืนก็จะมีการลงโทษเป็นไปตามระเบียบของสถานที่ทำงานนั้นๆ ไปจนถึงในขั้นตอนตามกฎหมาย
ในปัจจุบันเราสามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ 2 วิธี
1. การเจาะเลือดเพื่อตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จะใช้ในกรณีที่ต้องการทราบค่าที่ถูกต้องชัดเจนเพื่อนำผลไปใช้อ้างอิงตามแต่ละกรณี โดยเป็นการตรวจที่ไม่สามารถทราบผลได้ทันที เพราะต้องผ่านกระบวนการทางห้องปฏิบัติการ และมีค่าใช้จ่ายสูง
2. การตรวจด้วยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์จากลมหายใจ (Breathalyzer) นิยมใช้สำหรับการตรวจคัดกรอง เพราะมีแม่นยำในระดับที่ยอมรับได้ ตัวเครื่องสามารถพกพาได้สะดวก ตรวจง่ายเพียงแค่เป่าก็สามารถรู้ผลตรวจได้ทันที
สำหรับการตรวจด้วยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์นั้นจะเป็นที่นิยมในการตรวจคัดกรองของตำรวจตามด่านตรวจ รวมถึงสถานที่ทำงานตามโรงงานอุตสาหกรรมและขนส่งต่างๆ โดยจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ให้มีค่าที่ถูกต้องแม่นยำอยู่เสมอ ผ่านกระบวนการสอบเทียบเครื่องมือทุกๆ 6 เดือน
ซึ่งส่วนบริการสอบเทียบเครื่องมือของบริษัท ห้องปฏิบัติการการ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย สามารถให้บริการสอบเทียบเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบห้องปฏิบัติการสอบเทียบมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC 17025 สามารถออกใบรับรองผลการทดสอบในการยืนยันประสิทธิภาพของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์กับหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ มีระยะเวลาตรวจไม่เกิน 3-5 วันทำการ โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
• ส่วนบริการสอบเทียบเครื่องมือ โทร. 0 2940 6881-3 ต่อ 263
• www.centrallabthai.com
#เซ็นทรัลแล็บไทย #สอบเทียบเครื่องมือ #เครื่องเป่าแอลกอฮอล์