Print this page

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เตือน กินฟ้าทะลายโจรผิดวิธี ไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงอันตราย

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะ ประชาชนที่จะใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรรักษาอาการโควิด-19 ให้ยึดหลัก 3 ถูก ได้แก่ถูกต้อง ถูกขนาด ถูกเวลา ด้านเซ็นทรัลแล็บไทย ห่วงผลิตภันฑ์ไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย

นพ.กุลธนิต วนรัตน์ ผอ.สำนักวิจัยการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้พืชสมุนไพรหลายชนิดได้รับความสนใจจากประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะ ฟ้าทะลายโจร ที่งานวิจัยพบว่าสารสำคัญ แอนโดรกราโฟไลด์ สามารถต้านการอักเสบของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้

“หลักฐานงานวิจัย ระบุว่า ฤทธิ์หลักๆ ของฟ้าทะลายโจร คือ ต้านการอักเสบ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และสามารถต้านไวรัสขนาดกว้างได้ และการจากการศึกษาในเนื้อเยื้อ พบว่า สามารถยับยั้งเชื้อโควิด-19 ไม่ให้แบ่งตัวมากขึ้น และไม่ให้ไวรัสออกจากเซลล์ไปติดเซลล์อื่นมากขึ้น” นพ.กุลธนิต กล่าว

นพ.กุลธนิต ระบุอีกว่า การกินสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หากผู้บริโภคกินไม่ถูกหลัก อาจส่งให้กระทบต่อร่างกาย ดังนั้นจึงต้องมีข้อห้ามสำคัญคือ ผู้ที่เคยกินฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการแพ้ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ต้องห้ามใช้เด็ดขาด ส่วนกลุ่มที่ต้องระวังในการใช้สมุนไพรชนิดนี้คือ คนที่มีโรคประจำตัวและได้รับยาในกลุ่ม 7 โรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน ต้องระมัดระวังในการใช้เพราะอาจจะไปต้านหรือเสริมฤทธิ์กันได้ ดังนั้นการใช้ฟ้าทะลายโจรต้องปรึกษาแพทย์ผู้รักษาอย่างเคร่งครัด

ผอ.สำนักวิจัยการแพทย์แผนไทย ยังแนะนำหลักการกินฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาอาการโควิด-19 ว่ามีหลัก 3 ถูก คือ ถูกต้อง ถูกขนาด และ ถูกเวลา โดยแบ่งเป็น

ถูกต้อง คือต้องกินสมุนไพรหลังจากได้รับการยืนยันว่ามีเชื้อแล้ว ไม่ว่าจะมีอาการ หรือไม่มีอาการรุนแรง

ถูกขนาด จากงานวิจัยพบว่า สารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ ที่จะสามารถยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้ ต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวน 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลานาน 5 วัน โดยแบ่งออกเป็น 3 เวลา ห่างกัน 8 ชั่วโมง

ถูกเวลา โดยวิธีการกินฟ้าทะลายโจรที่ได้ผลดีคือกินให้เร็วที่สุดเมื่อเริ่มมีอาการภายใน 24 ชั่วโมง เพราะสารสำคัญจะเข้าไปช่วยลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส หากได้รับสมุนไพรเร็วเท่าใดยิ่งช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสได้มากขึ้น

นางชม้อย ทองลือ ผอ.สำนักงานสาขากรุงเทพฯ บ.ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย ระบุว่า ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง “ข้อกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสารสกัดฟ้าทะลายโจรผง” กำหนดให้ต้องมีสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ อยู่ในผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 6% จึงจะถือว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ที่สำคัญต้องไม่มี สารพิษ 14 – ดีออกซี – 11, 12 ไดดี ไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่มากกว่า 15% เพราะอาจทำให้เกิดโทษกับร่างกายได้ ซึ่งการจะรู้ว่าสารดังกล่าวมีปริมาณต่ำหรือสูงกว่าที่มาตรฐานกำหนดหรือไม่ ต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ไม่เกิดโทษ และได้ประโยชน์สูงสุด

“ปัจจุบันพบว่ามีการผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่วางขายในตลาดบางผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด และยังพบว่ามีการปลอมแปลงเลขสารระบบ อย. ซึ่งการตรวจสอบความถูกต้องอาจทำได้ยาก ทั้งนี้ หากผู้ประกอบรวมถึงคนที่ไม่มั่นใจสามารถนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตรวจหาค่าสารสำคัญ แอนโดรกราโฟไลด์ (ANDROGRAPHOLIDE)ตามที่ระบุไว้ในฉลากกับทางเซ็นทรัลแล็บไทยได้” นางชม้อย ทองลือ กล่าว

นอกจากนี้อันตรายที่จะเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการได้รับการปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย เช่น ยาฆ่าแมลง สารพิษตกค้าง สารปรอท โลหะหนัก เป็นต้น เนื่องจากสารพิษเหล่านี้จะปลอมปนได้ทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่เตรียมแปลงปลูก การผลิตสินค้า จนถึงกระบวนการบรรจุเป็นผลิตภัณฑ์ โดยเซ็นทรัลแล็บไทยให้บริการตรวจวิเคราะห์หาสารสำคัญในพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และอีกหลายชนิด อาทิ กระชายขาว ขมิ้นชัน เป็นต้น