ส่องมาตรฐาน “ชาไทย” ทำอย่างไร ? ให้มีคุณภาพ เป็นที่ถูกปากคนทั่วโลก

จากการจัดอับดับเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ 100 อันดับอร่อยที่สุดในโลก... ของ TasteAtlas เว็บไซต์ชื่อดังด้านอาหาร และ การท่องเที่ยว ปรากฏว่า “ชาเย็น” หรือ “ชาไทย” ถูกโหวตจากคนทั่วโลกให้ติดอันดับที่ 7 ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับชาวไทยเป็นอย่างมาก

จะเห็นว่าสินค้าที่นำชาไทยเข้ามาเป็นส่วนผสมมีมากมาย ทั้ง ใบชาแห้ง , เครื่องดื่มชงสำเร็จรูป , หรืออาหาร-เครื่องดื่มแปรรูปที่ใช้ใบชาเป็นส่วนประกอบ... เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าประเภทชาไทย ให้มีคุณภาพเป็นที่ถูกปากของคนทั่วโลก... มาตรฐานของชาไทยที่ผลิตออกมาวางจำหน่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด มาตรฐานสินค้าประเภทชา เป็นข้อกำหนดให้ผู้ประกอบการผลิตสินค้าที่ประมีคุณภาพ เช่น ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 196) พ.ศ. 2543 เรื่อง ชา กำหนดรายละเอียด ให้ชาเป็นอาหารที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน และ แบ่งชนิดของชาออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ใบชา , ชาผงปรุงสำเร็จรูป , ชาปรุงสำเร็จ 

สำหรับมาตรฐาน “ชาปรุงสำเร็จ” ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 196) ได้กำหนดรายละเอียดของคุณภาพ และ มาตรฐานไว้หลากหลายข้อ เช่น
- ต้องมีความชื่นไม่เกินร้อยละ 8 ของน้ำหนัก
- มีเถ้าทั้งหมด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 และไม่เกินกว่าร้อยละ 8 ของ น้ำหนักชาแห้ง
- มีเถ้าที่ละลายน้ำได้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 45 ของเถ้าทั้งหมด
- มีกลิ่นและรสตามลักษณะเฉพาะของชา 
- ไม่มีตะกอน เว้นแต่ตะกอนอันมีตามธรรมชาติของส่วนประกอบ
- ตรวจพบเชื้อแบคทีเรียชนิดโคลิฟอร์มน้อยกว่า 2.2 ต่อชาปรุงสำเร็จ 100 มิลลิลิตร
- ตรวจไม่พบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค
- ไม่มียีสต์ และ เชื้อรา

ซึ่งข้อกำหนดที่ยกมาให้เห็น เป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งในข้อกฎหมาย ได้จำแนกรายละเอียดมาตรฐาน และ คุณภาพของชาแต่ละชนิดไว้อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อกำหนดให้ผู้ประกอบการผลิตชาออกมาอย่างมีคุณภาพ และมีมาตรฐาน •• ซึ่งมาตรฐานดังกล่าว เซ็นทรัลแล็บไทย สามารถให้บริการตรวจทดสอบได้ทั้งหมด ผู้ประกอบการท่านใดสนใจ สามารถปรึกษาได้ที่เซ็นทรัลแล็บไทยทุกสาขา •• 

#ชาไทย #มาตรฐานชา #ชาไทยติดอันดับ7 #เซ็นทรัลแล็บไทย #Centrallabthai