วิสาหกิจชุมชน บ้านทุ่งแพม ลุยขยายพันธ์กัญชาอย่างถูกต้อง
วิสาหกิจ ชุมชนบ้านทุ่งแพม เดินหน้าขยายพันธ์กัญชาอย่างถูกต้อง เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เร่งขึ้นทะเบียนกัญชาสายพันธุ์ไทย มั่นใจปลอดภัยกว่านำเข้าต่างประเทศ
นายณัฐวรรธน์ วรพนิตกุล ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกและแปรรูปบุก เกษตรอินทรีย์บ้านทุ่งแพม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน วิสาหกิจที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับกัญชา เพื่อใช้ในทางการแพทย์ ระบุว่า หลังจากรัฐบาลมีนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ วิสาหกิจได้เดินหน้าในการศึกษาอย่างจริงจัง
โดยได้มีการดูงานในต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ปัจจุบันวิสาหกิจบ้านทุ่งแพมทำหน้าที่เป็นผู้ปลูกกัญชา และพัฒนาสายพันธุ์โดยเน้นไปที่สายพันธุ์ไทย ซึ่งเริ่มต้นจากการเปิดให้นิรโทษกรรมเมล็ดสายพันธุ์กัญชาที่เคยครอบครองไว้
ซึ่งได้มาจากการปลูกแบบใต้ดินมาก่อน ทำให้มีเมล็ดพันธุ์ที่ถูกกฎหมายจากนั้นได้มีการจัดทำโครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาและกรมการแพทย์แผนไทยในการใช้เมล็ดกัญชา มาเพาะเพื่อทำวิจัย เวลานี้ทางวิสาหกิจมี มีเมล็ดพันธุ์กัญชากว่า 100 สายพันธุ์
โดยได้ขึ้นทะเบียนแล้ว 7 สายพันธุ์ โดยในแต่ละสายพันธุ์นั้นมีคุณสมบัติในการใช้ที่แตกต่างกัน โดยทางประธานวิสาหกิจย้ำว่ากัญชาสายพันธุ์ไทยถือว่าปลอดภัยหากนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ในเชิงการแพทย์ ซึ่งปลอดภัยกว่าสายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ
โดยวิสาหกิจเริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด ปลูกเพื่อใช้ใบและเก็บดอก ซึ่งจะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 4-5 เดือนจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเก็บตากและแปรรูป เพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ซึ่งขั้นตอนในการปลูกทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมในโรงเรือนแบบปิดแยกสายพันธุ์อย่างชัดเจน และสำหรับการตรวจรับรองมาตรฐานนั้น บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง(ประเทศไทย) จำกัด หรือ เซ็นทรัลแล็บไทย
ซึ่งมีอยู่ 6 สาขาทั่วประเทศ โดยเป็นห้องปฏิบัติการที่ได้ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยใช้ประโยชน์วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1(THC) และได้รับอนุญาตในการครอบครองพืชกัญชากัญชง
เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทุกประเภท จะเป็นผู้ตรวจสอบการันตีมาตรฐานสารต่างๆ ที่ผ่านการปลูกจากวิสาหกิจ ซึ่งในอนาคตจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงการแพทย์ได้อย่างจริงจัง
ที่มา : naewna